ทำความเข้าใจการปลูกกัญชา พร้อมแนะนำวิธีการดูแลกัญชาที่มือใหม่ควรรู้

ปลูกกัญชา

ทำความเข้าใจการปลูกกัญชา พร้อมแนะนำวิธีการดูแลกัญชาที่มือใหม่ควรรู้

หลังจาก “ปลดล็อกกัญชา” มีผลให้กัญชาไม่นับเป็นสิ่งผิดกฎหมายอีกต่อไป ส่งผลให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาภายในครัวเรือนได้ ไม่ว่าจะปลูกไว้ใช้ในทางการแพทย์ หรือเพื่อการอื่นก็ตาม อีกทั้งยังสามารถปลูกเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือปลูกกัญชาเพื่อนำส่วนต่าง ๆ ของกัญชาไปทำผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ เช่น อาหาร เครื่องสำอาง หรือยาสมุนไพร 

ใครเป็นมือใหม่ที่ต้องการปลูกกัญชาไว้ใช้ในครัวเรือนหรือปลูกไว้จำหน่าย แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี บทความนี้ Civic AgroTech จะมาแนะนำข้อควรรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกกัญชา และทำความเข้าใจวิธีการปลูกกัญชาไปพร้อมกัน 

วิธีปลูกกัญชาทำอย่างไร?

วิธีปลูกกัญชาต้องทำอย่างไรบ้าง? แท้จริงแล้วกัญชาเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ง่ายไม่ต่างจากพืชผักสวนครัว ที่ต้องอาศัยวิธีการปลูกที่เหมาะสม และการดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลผลิตต้นกัญชาที่มีคุณภาพ ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมการก่อนปลูกไปจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยวต้นกัญชา ดังนี้

  • การเตรียมดินปลูกกัญชา สามารถใช้ดินสำหรับปลูกพืชตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นดินที่ร่วนซุย สามารถระบายน้ำได้ดี ทั้งยังมีอินทรียวัตถุสูง และมีค่า pH อยู่ระหว่าง 5.8-6 
  • การปลูกกัญชา วิธีปลูกที่ได้รับความนิยมมี 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ดกัญชาจากผู้ผลิตและหยอดเมล็ดพันธุ์กัญชา เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เป็นเมล็ดและช่อดอก อีกวิธีคือ การปักชำกิ่งหรือที่เรียกว่า การโคลนนิ่งกัญชา โดยใช้ต้นแม่พันธุ์เพศเมียที่มีความแข็งแรง ซึ่งจะได้ต้นโคลนที่มีพันธุ์ดี รวมถึงมีลักษณะเช่นเดียวกับต้นแม่พันธุ์ด้วย 
  • การรดน้ำและใส่ปุ๋ยต้นกัญชา น้ำสำหรับปลูกกัญชาควรมีค่า pH 6.3-6.8 และสามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ใส่รอบ ๆ โคนต้นกัญชาได้ทุกวัน เช่น มูลไก่, มูลวัว, มูลไส้เดือน หรือมูลค้างคาว เป็นต้น นอกจากนี้ ควรกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอด้วย 
  • การคัดต้นกัญชา จะคัดเอาเฉพาะช่อดอกกัญชาเพศเมียเท่านั้น เนื่องจากมีสารสกัดสำคัญมากกว่ากัญชาเพศผู้ ซึ่งจะคัดแยกได้หลังปลูกกัญชาประมาณ 45 วัน 
  • การเก็บเกี่ยวต้นกัญชา สามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่อายุได้ 4 เดือนขึ้นไป แนะนำให้เก็บเกี่ยวในช่วงที่มีแสงแดดจัด เพราะได้ต้นกัญชาที่มีสาร THC สูง

อุปกรณ์ที่ใช้ปลูกกัญชามีอะไรบ้าง?

วิธีปลูกกัญชา

การปลูกกัญชาให้ออกดอกสวยงามและมีสารสำคัญปริมาณสูง ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น แสง, อุณหภูมิ, อากาศ, การสะท้อนแสง, ความชื้น หรือคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ซึ่งบางปัจจัยก็ไม่อาจพึ่งพาธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม ที่จะช่วยให้ปลูกกัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถส่งผลต่อคุณภาพของผลผลิตอย่างต้นกัญชาด้วย

อุปกรณ์ที่ใช้ปลูกกัญชาส่วนใหญ่นั้นก็เหมือนกับอุปกรณ์ปลูกพืชอื่น ๆ เช่น เต็นท์ปลูกพืช, ถาดปลูกพืช, กล่องเพาะกล้า, กระถางปลูกพืช และที่สำคัญคือหลอดไฟปลูกกัญชา อุปกรณ์ที่ให้ค่าแสง PPFD ซึ่งจำเป็นในการปลูกกัญชาอย่างมาก ทั้งนี้ การปลูกกัญชาก็มีรูปแบบที่หลากหลายและแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการปลูกและความสะดวกของผู้ปลูก ทั้งด้านต้นทุน พื้นที่ หรือเวลา เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับปลูกกัญชาอย่างเหมาะสมด้วย 

ปลูกกัญชากลางแจ้ง (Outdoor)

การปลูกกัญชากลางแจ้ง (Outdoor) จะใช้ต้นทุนน้อย เน้นพึ่งพาธรรมชาติอย่างเต็มรูปแบบ เหมาะกับการปลูกกัญชาเฉพาะสายพันธุ์ที่ปลูกในเมืองไทยได้ดี การเจริญเติบโตของต้นกัญชาจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล และไม่สามารถควบคุมปัจจัยในด้านแสง PPFD ที่ใช้ในการปลูกกัญชาได้ ต้นกัญชาที่ปลูกจึงอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรค หรือการรบกวนจากวัชพืชและศัตรูพืช นอกจากนี้ยังเก็บเกี่ยวได้ปีละครั้งตามแสงในแต่ละฤดู และไม่สามารถกระตุ้นผลผลิตได้

ปลูกกัญชาในร่ม (Indoor)

การปลูกกัญชาในร่ม (Indoor) เป็นการปลูกในที่ปิดมิดชิด เช่น ในห้อง โรงเรือนระบบ หรือในเต็นท์ ซึ่งการปลูกกัญชารูปแบบนี้จะง่ายต่อการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความชื้น, อุณหภูมิ, การสะท้อนแสง, อากาศ, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และค่าแสง PPFD ในการปลูกกัญชา ที่จะช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพ ลดปัญหาการเกิดโรค หรือแมลงศัตรูพืชได้ ที่สำคัญคือสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลายรอบใน 1 ปี แต่การปลูกกัญชารูปแบบนี้จะมีต้นทุนค่อนข้างสูงเช่นกัน

ปลูกกัญชาในโรงเรือนกรีนเฮาส์ (Greenhouse)

การปลูกกัญชาในโรงเรือนกรีนเฮาส์ (Greenhouse) เป็นการปลูกในโรงเรือนที่มีหลังคาโปร่งแสง จึงสามารถใช้แสงจากธรรมชาติสำหรับปลูกกัญชา และสามารถออกแบบระบบการทำงาน หรือติดตั้งอุปกรณ์เสริมภายในโรงเรือน เพื่อควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกกัญชาได้ เช่น ติดตั้งหลอดไฟเพื่อเพิ่มปริมาณแสง PPFD หรือป้องกันแมลง ติดตั้งอุปกรณ์ระบายอากาศหรือควบคุมความชื้น เป็นต้น แม้รูปแบบนี้จะมีต้นทุนสูงกว่าการปลูกกัญชากลางแจ้ง แต่ก็ให้ผลผลิตในปริมาณที่มากขึ้นและดูแลได้ง่ายกว่าด้วย

ระยะเวลาในการปลูกกัญชาช่วงต่าง ๆ

กัญชาเป็นพืชที่ต้องการแสงเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตในปริมาณมากถึง 14 ชั่วโมงต่อวัน อีกทั้งกัญชาแต่ละสายพันธุ์ก็มีระยะเวลาการเติบโตที่แตกต่างกันออกไป โดยปกติแล้วจะแบ่งระยะเวลาในการปลูกกัญชาออกเป็น 4 ระยะหลัก ดังนี้

การเพาะเมล็ดพันธุ์

ระยะแรกของการปลูกกัญชาคือ ช่วงการเพาะเมล็ด (Germination) โดยคัดเลือกเมล็ดพันธุ์กัญชาที่สมบูรณ์ ซึ่งมีผิวเมล็ดแข็ง เนื้อเรียบเนียน และสีออกน้ำตาลเข้ม นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง แล้วนำไปเก็บในที่มืดและอุ่นประมาณ 12 ชั่วโมง จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ย้ายไปวางบนกระดาษชำระชุ่มน้ำในกล่อง แล้วปิดด้วยกระดาษชำระชุ่มน้ำอีกชั้น ทิ้งไว้ 3-7 วัน

การอนุบาล

ระยะต่อมาของการปลูกกัญชาคือ การอนุบาล (Seedling) โดยนำเมล็ดกัญชาที่เริ่มมีรากงอกไปปลูกลงกระถางปลูก ซึ่งดินในกระถางต้องมีความชื้น ร่วนซุย มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกัญชา เช่น พีทมอส เพอร์ไลต์ หรือร็อควูล รวมถึงต้องปลอดสารปนเปื้อนด้วย ในระยะการอนุบาลนี้ใช้เวลา 1-2 สัปดาห์

ระยะเลี้ยงใบ

ระยะที่ 3 สำหรับการปลูกกัญชาอย่าง ระยะเลี้ยงใบ (Vegetative) เป็นช่วงที่ต้นกัญชาต้องการแสงและปุ๋ย เพื่อนำมาใช้สร้างรากและใบ ดังนั้นอาจเน้นการให้แสง PPFD ที่จำเป็นต่อการปลูกกัญชา ยาวนานประมาณ 16-20 ชั่วโมง และใส่ปุ๋ยมูลไส้เดือนหรือฮอร์โมนไข่ เพื่อเพิ่มธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตได้ ระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์

ระยะทำดอก

ระยะทำดอก (Flowering) คือระยะสุดท้ายของการปลูกกัญชา ในระยะนี้สามารถให้ปุ๋ยที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและฟอสฟอรัส เพื่อช่วยเร่งดอกของต้นกัญชาได้ นอกจากนี้ ยังต้องระวังไม่ให้เกิดเชื้อรา โดยอาจให้ต้นกัญชาอยู่ในอุณหภูมิที่ค่อนข้างเย็น และควบคุมไม่ให้เกิดความชื้นสูงเกินไป

ปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่าง ๆ ต่างกันไหม?

ปลูกกัญชา สายพันธุ์ไหนดี

ต้นกัญชามีสายพันธุ์อะไรบ้าง? สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มศึกษาแนวทางปลูกกัญชา อาจไม่แน่ใจว่าควรเลือกปลูกกัญชาสายพันธุ์ไหนดี แท้จริงแล้วกัญชาที่นิยมปลูกกันทั่วไป สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 สายพันธุ์ใหญ่ ๆ ดังนี้

  • กัญชาสายพันธุ์ซาติกา (Cannabis sativa) จะชื่นชอบแสงแดดและอากาศร้อนชื้นจึงเหมาะกับการปลูกในไทย มีลักษณะใบสีเขียวอ่อนเรียวยาว ลำต้นหนาตั้งตรง และสูงได้ถึง 6 เมตร ที่สำคัญคือมีสาร THC ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทสูง ใช้เวลาประมาณ 9-16 สัปดาห์จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ หากต้องการปลูกกัญชาสายพันธุ์นี้ อาจต้องระวังปัญหาเชื้อราเป็นหลัก
  • กัญชาสายพันธุ์อินดิกา (Cannabis indica) เติบโตได้ดีในที่ร่มและสภาพอากาศเย็น ลำต้นเป็นพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบกว้างสั้น และมีกิ่งก้านดกหนา กัญชาสายพันธุ์นี้ใช้ระยะเวลาเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวประมาณ 6-8 สัปดาห์ ออกดอกปริมาณมาก และมีสาร CBD ที่ออกฤทธิ์ระงับประสาท ช่วยลดอาการปวดได้ดี จึงนิยมปลูกกัญชาสายพันธุ์อินดิกาเพื่อนำมาใช้ในทางการแพทย์ 
  • กัญชาสายพันธุ์รูเดอราลิส (Cannabis ruderalis) เจริญเติบโตได้ทั้งในสภาพอากาศร้อนและอากาศเย็น ลักษณะลำต้นคล้ายวัชพืช เตี้ยกว่าสายพันธุ์ซาติกาและอินดิกา ส่วนใบจะกว้างเรียวยาวและมี 3 แฉก ระยะเวลาเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวจะอยู่ที่ 30 วัน กัญชาสายพันธุ์รูเดอราลิสมีปริมาณสาร THC ต่ำ แต่มีสาร CBD สูง การปลูกกัญชาสายพันธุ์นี้จึงมักนิยมนำไปผสมข้ามสายพันธุ์กับซาติวาและอินดิกา 

ปลูกกัญชาถูกกฎหมาย ต้องจดแจ้งอย่างไร?

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการปลูกกัญชาภายในครัวเรือน สามารถจดแจ้งได้ผ่าน 3 ขั้นตอน ดังนี้ 

  1. ก่อนปลูกกัญชาต้องทำการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ plookganja.fda.moph.go.th หรือลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน ‘ปลูกกัญ’ 
  2. แจ้งวัตถุประสงค์ในการปลูกกัญชาให้ชัดเจนว่า ต้องการปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือน หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ 
  3. รับเอกสารจดแจ้งปลูกกัญชาทางอิเล็กทรอนิกส์

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการจดแจ้งปลูกกัญชาคือ สามารถปลูกกัญชาไว้ในครัวเรือนและใช้เชิงพาณิชย์ได้ โดยสามารถขายส่วนต่าง ๆ ของพืชกัญชา เช่น ใบ ดอก หรือลำต้น แต่หากต้องการปลูกเพื่อขายเมล็ดพันธุ์ กิ่งพันธุ์ และต้นกล้ากัญชา จำเป็นต้องขออนุญาตเพื่อปลูกกัญชาตาม พ.ร.บ. พันธุ์พืชเสียก่อน 

นอกจากนี้ ยังสามารถครอบครองและจำหน่ายกัญชาที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% ได้เช่นกัน แต่หากมีปริมาณสาร THC เกิน 0.2% จะจัดเป็นยาเสพติด จึงจำเป็นต้องขอใบอนุญาตตามกฎหมายจากอย. ในการปลูกกัญชาเพื่อสกัดสาร THC สำหรับนำไปจำหน่ายด้วยเช่นกัน 

สรุปเกี่ยวกับการปลูกกัญชา 

การปลูกกัญชามีวิธีการเช่นเดียวกับการปลูกพืชทั่วไป ซึ่งการจะได้ผลผลิตกัญชาที่มีสารสำคัญปริมาณสูง ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ปลูกกัญชา ซึ่งเป็นตัวช่วยควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เช่น หลอดไฟให้แสง อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น หรือคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น ทั้งนี้ ก่อนปลูกกัญชาจะต้องจดแจ้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนเสียก่อน และต้องขออนุญาตตามกฎหมายในกรณีที่ต้องการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ กิ่งพันธุ์ และต้นกล้ากัญชา หรือจำหน่ายกัญชาที่มีสาร THC เกิน 0.2%

ผู้ที่สนใจปลูกกัญชาให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ ทาง Civic AgroTech ผู้นำนวัตกรรมการเกษตรแบบ Indoor อย่างเต็มรูปแบบ เรามีบริการให้คำปรึกษางานระบบปลูกพืช พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์เสริมไฟ LEDs และอุปกรณ์สำหรับปลูกพืชทุกรูปแบบ ตัวช่วยให้คุณปลูกกัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • Line : @Civic Agrotech 
  • เบอร์โทรศัพท์ : 02-688-0860
  • E-Mail : sales@civicagrotech.com

Shopping Cart0

Cart